ทำเกษตรบนคันดิน Hugelkultur
ทำเกษตรบนคันดิน Hugelkultur
ทำเกษตร มีหลากหลายสารพัดวิธีที่อาจไม่มีในเชิงวิชาการ แต่สำหรับวิธีนี้ผมขอเรียกง่ายๆ ว่า การปลูกผักบนคันดิน หรือ การทำคันดินปลูกผัก โดยภาษาที่เข้าใจกันในสากลบอกไว้ว่าเป็นวิธีแบบ Hugelkultur Hugelkultur คือวิธีการทำเกษตรที่เกิดจากการสังเกตุธรรมชาติ ว่าในบริเวณต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่ล้มที่ร่วงทับถมกันในป่านั้น จะเป็นพื้นที่ที่สามารถรักษาความชื้นได้ดีกว่าบริเวณอื่นๆ โดยรอบ และมักจะมีตะไคร่ มอส หรือเห็ดเกาะตามขอนไม้ โดยเฉพาะในหน้าแล้ง ดินบริเวณขอนไม้ก็จะมีความชื้นมากกว่าบริเวณอื่น เมื่อไม้ย่อยสลายก็จะทำให้ดินบริเวณใกล้ๆ ขอนไม้มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าบริเวณอื่นด้วย ตลอดระยะเวลานานนับ 10 ปี หลังจากที่เศษซากพืชถูกย่อยสลายจนหมดสิ้นแล้ว บริเวณดังกล่าวก็จะกลายเป็นกองดิน (mound) ที่มีธาตุอาหารมากมาย
เมื่อสามารถใช้พื้นที่เหล่านั้นให้เกิดประโยชน์โดยการนำพืชผักไปปลูกก็จะมีอัตราการงอกสูง
เทคนิคดังกล่าวเรียกว่า Hugelkultur ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันแปลว่า mound culture น่าจะแปลเป็นภาษาไทยว่า วัฒนธรรมเนินดิน ซึ่งฟังดูแปลกๆ
และไม่สื่อความหมายมากนัก จึงอาจใช้ชื่อว่า Hugelkultur ตามเขา
หรือตามผมคือ การปลูกผักบนคันดิน หรือ การทำคันดินปลูกผัก
เอาไว้เป็นแปลงเกษตรสำหรับปลูกผักนั่นเอง
ทำเกษตรบนคันดิน ด้วยวิธี Hugelkultur
อย่างไรให้ได้ผล
วิธีการก็คือ ใช้ท่อนซุงหรือพวกกิ่งไม้
เศษใบไม้ใบหญ้าต่างๆ มากองสุมเป็นฐานและก่อเป็นแปลงผักให้สูงขึ้นเพื่อใช้ในการปลูกผักหรือทำประโยชน์ต่างๆ
ด้านการเกษตรอินทรีย์ ซึ่งประโยชน์ของการปลูกผักโดยวิธีนี้คือ
พืชผักที่เราปลูกนั้นจะได้รับสารอาหารจากกิ่งไม้เศษไม้ที่นำมากองสุมๆ
เอาไว้และถูกย่อยสลายด้วยธรรมชาติ เป็นการช่วยให้อาหารและความชื้นตามธรรมชาติ โดยแปลงเกษตรแบบนี้
แทบจะไม่ต้องรดน้ำเลย หรือใช้น้ำน้อยมากในการรดน้ำให้พืชผัก
ประสิทธิภาพที่จะได้สำหรับการปลูกผักบนคันดิน
หรือการทำคันดินปลูกผักด้วยวิธี Hugelkulture นี้คือเราจะต้องทำให้แปลงผักกองสุมนี้ให้สูงและกว้าง
ยิ่งสูงมากกว้างมาก ก็ยิ่งไม่ต้องเปลืองน้ำกันมาก
แต่ขอแนะนำ ให้เอาไม้หรือซากพืชที่สามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลาสั้นๆ นะครับ หากนำไม้สดมากองสุมๆ กันอาจต้องใช้เวลาเป็นปีเพื่อจะได้แปลงผักแบบนี้ แต่รับรองว่า ทำแล้วจะได้แปลงผักที่ไม่ต้องรดน้ำจนชุ่มไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อมููลระบุว่าการทำแปลง Hugelkulture 1 ครั้งสามารถใช้งานได้ยาวนานเกิน 10 ปี
เอาไปลองกันเลย ผู้เขียนคิดว่า หากนำวิธีนี้มาจัดสวนล่ะก็
สวนจะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปีเลยทีเดียว ที่สำคัญไม่ต้องรดน้ำพรวนดินบ่อยๆ ดีมากๆ
เลย
แหล่งที่มา http://www.kasetorganic.com/hugelkultur.html
นางสาววรรณวิลาส ทิพย์มลสวัสดิ์ 5806401064
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น